เราต้องกล้าที่จะยอมรับตัวเองง

ความกล้า

“ความกล้า” สืบเนื่องมาจากความผันผวน ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของวิธีคิด หลักการทำงาน บริหารจัดการ เทคโนโลยี ฯลฯ และรวมทั้งการแข่งขันกันอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้หลายคนมีความวิตกกังวล ความกลัว ความวิตกกังวลมีทั้งการเผชิญกับอนาคตที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น เผชิญกับปัจจุบันขณะที่กำลังทำงานอยู่ และความรู้สึกไม่ดีต่อสิ่งทำไปแล้ว ความกลัวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมีทั้งประโยชน์และโทษขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ จะเรียนรู้และสามารถจัดการกับมันอย่างไร ความกลัวตามสัญชาติญาณแล้วเป็นเครื่องมือช่วยให้แต่ละคนระมัดระวังตนไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท ช่วยระแวดระวังภัยให้กับตนเอง แต่ถ้าความกลัวกลายเป็นวิตกจริต กลัวจนกลายเป็นคนระแวง สงสัย ขาดสติควบคุมเลยเถิดจนเป็น “โรคความกล้า”
ขณะที่ภายในเรามีความกลัว ทุกคนก็มีกลไกผลักดันมนุษย์ช่วยในการแก้ปัญหาและนำพาชีวิตให้ไปสู่หลักชัยได้คือ “ความกลัว”
ความกล้าเป็นพฤติกรรมลงมือปฏิบัติแม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่น่ากลัว ยาก และอันตราย เขากล้าที่จะทำแม้ขณะที่มีความกลัว คนกล้าไม่ใช่คนปราศจากความกลัวไม่เช่นนั้นจะไม่มีคนกล้าเลยในโลกมนุษย์ คนกล้าตัดสินใจสู้ ตัดสินใจทำ ตัดสินใจแก้ไข แม้จะยาก จะต้องใช้เวลา จะมีอันตราย หรือแม้จะต้องจ่ายราคาก็ตาม
ผู้อ่านขณะนี้คุณอาจกำลังเผชิญกับวิกฤติชีวิต การงาน และครอบครัว คุณกำลังรู้สึกว่ากำลังหมดแรงสู้ รู้สึกว่าจะยกธงขาว อย่ายอมแพ้ จงกล้าหาญเถิด ถ้าที่ผ่านมาเราทำผิดพลาด จงกล้าที่จะรับมัน กล้าที่จะขอโทษ กล้าที่จะให้อภัยตัวเอง กล้าที่จะแก้ไขในสิ่งผิด กล้าที่จะไปหาบุคคลที่เก่งกว่าเราและขอคำปรึกษาจากเขา เหนือสิ่งใดจงมีใจกล้าที่จะเข้าหาพระเยซูคริสต์พระผู้เป็นเจ้า ถึงแม้ว่าจะหลงทางไปนานเท่าใด พระคุณของพระองค์มีพอสำหรับทุกคน จงเข้ามายังพระที่นั่งแห่งพระคุณด้วยกล้าหาญเถิด
คนเรามีทั้งความกลัวและความกล้าอยู่ภายใน เราเป็นผู้เลือกว่าจะให้อะไรออกหน้า